
กระทรวงการคลัง ย้ำคุณสมบัติผู้ที่จะลงทะเบียนเข้าร่วมแผนการ “คนละครึ่ง” เพื่อรับสิทธิ์ใช้จ่ายเงินสูงสุดวันละ 150 บาท รอบเก็บตก ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้
ปัจจุบัน นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจการคลัง สศค. ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลังเผยออกมาว่า แผนการคนละครึ่งจะเปิดให้ราษฎรสมัครสมาชิกร่วมแผนการอีกที ในวันที่ 11 พ.ย. 2563 ระหว่างเวลา 06.00-23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com กระทั่งจะครบจำนวน
•
ปตท.ลุ้น “โจ ไบเดน” ผลักเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ปี 64 ลุยลงทุน 8 หมื่นล้าน
•
เปิดแผนแม่บทเฉพาะกิจสู้โควิด ภายใต้ที่มีความสำคัญในการรบชาติตั้งเป้าหมาย “ล้มแล้วลุกไว”
•
เปิดผลกำไรขนมปาท่องโก๋การบินไทย
ดังนี้ ขอย้ำว่าคนที่สามารถสมัครสมาชิกได้ควรจะเป็นผู้ไม่เคยสมัครสมาชิกร่วมแผนการคนละครึ่ง มาก่อน หรือเป็นผู้เคยสมัครสมาชิกแต่ไม่สำเร็จจึงถือเป็นคนที่ไม่เคยได้รับสิทธิ์ร่วมแผนการ ซึ่งในวันที่ 9 พ.ย. 2563 มีสิทธิคงเหลือจากผู้ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิรวมทั้งผู้ไม่เริ่มใช้สิทธิ์ภายในกำหนด 14 วัน ที่จะนำมาเปิดให้ราษฎรสมัครสมาชิกเป็นจำนวน 2.3 ล้านสิทธิ์
สำหรับคุณลักษณะของคนที่สามารถสมัครสมาชิกร่วมแผนการ ควรเป็นราษฎรเชื้อชาติไทยอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในวันสมัครสมาชิก มีบัตรประชาชน และไม่เป็นผู้มีบัตรผลประโยชน์แห่งรัฐซึ่งได้รับสิทธิ์จากแผนการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรผลประโยชน์แห่งรัฐ โดยขอให้เตรียมสมัครสมาชิกร่วมแผนการคนละครึ่งในวันที่ 11/11 ก่อนจำนวนสิทธิจะหมดลงอีกที อย่างไรก็แล้วแต่ ผู้ได้รับสิทธิ์รวมทั้งใช้สิทธิ์ตามแผนการคนละครึ่งแล้ว จะไม่อาจจะร่วมมาตรการช้อปดีมีคืนได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าปัจจุบันในวันที่ 9 พ.ย. 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านรวงสมัครสมาชิกร่วมแผนการแล้วกว่า 5.57 แสนร้านรวง รวมทั้งผู้ใช้สิทธิ์แล้วจำนวน 7,352,274 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 10,155 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ราษฎรจ่าย 5,178 ล้านบาท รวมทั้งภาครัฐร่วมจ่ายอีก 4,977 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 214 บาทต่อครั้ง โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 ขั้นแรก ดังเช่นว่า จังหวัดกรุงเทพมหานคร, จังหวัดสงขลา, นครศรีธรรมราช, จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เป็นลำดับ.