
กรณีศึกษาจาก เหตุอัคคีภัย โรงงานสารเคมี หรือโรงงานโฟม หมิงตี้ อ.บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เป็นเรื่องที่หน่วยงานราชการ โดยเฉพาะ กรมผังเมือง และก็ กรมอุตสาหกรรม ควรต้องเร่งตรวจสอบและก็แก้ไขไม่ให้ปัญหาดังที่กล่าวมาแล้วเกิดขึ้นอีกและก็แปลงเป็นปัญหาทับซ้อนด้านสังคม จะทำเช่นไร ระหว่างพื้นที่อยู่อาศัยของพสกนิกรกับ พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม แยกเป็นสัดส่วนที่กระจ่างทั้ง เรื่องที่โรงงานอุตสาหกรรมตั้งมาก่อนชุมชนและก็ชุมชนมีอยู่ก่อนโรงงานอุตสาหกรรม จะมาอ้างข้อบังคับเป็นไม้บรรทัดโดยไม่นึกถึงหลักรัฐศาสตร์อาจผิดจำเป็นต้องนัก
ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีหลายหน่วยงานที่พากเพียรเข้าไปให้ความช่วยเหลือทุเลาความลำบากให้ประชาชน ทั้งภาครัฐและก็เอกชน อาทิ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย โดย อรรถพล ยามพิบูลย์ ประธานข้าราชการบริหารและก็กรรมการผู้จัดการใหญ่ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ร่วมกับกลุ่ม การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยในเครือทั้งหมดทั้งปวง เป็นตัวตั้งตัวตีในเรื่องของ ความยั่งยืน ความปลอดภัย อนามัยและก็สิ่งแวดล้อม โดยอาศัยที่มีบริษัทในเครือที่มีความชำนิชำนาญด้านสารเคมี ด้านวิศวกรรม ซึ่งมีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเยอะมาก โดยเฉพาะด้าน Oil & Gas สามารถเข้าไปช่วยเหลือและก็ยับยั้งเหตุได้ถูกจุดที่สุด
เนื่องจากด้านความปลอดภัยและก็ความยั่งยืนทั้งในส่วนของ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยและก็ชุมชนใกล้เคียงเอง ไม่ว่าจะเป็นที่มาบตาพุดหรือที่จังหวัดชลบุรี จะเน้นเรื่องความยั่งยืนและก็ความปลอดภัยในพื้นที่ รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานสาธารณภัย กรมคุ้มครองป้องกันและก็ทุเลาสาธารณภัย ที่สามารถช่วยเข้าไปยับยั้งเหตุปกติอยู่แล้วจึงมีประสบการณ์ตรงนี้
ความพร้อมทั้งด้านสายงานระบบท่อส่งก๊าซ ที่ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยโออาร์ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนโฟมดับเพลิงรวมทั้งรถดับเพลิงพร้อมข้าราชการดำเนินการ ไออาร์พีซี มีทีมผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสารเคมี บริษัท เอ็นพีซี เซฟตี้ แอนด์ เอ็นไวรอนเมนทอล เซอร์วิส ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม พีทีคราว โกลบอล เคมิคอล หรือ GC ที่มีความชำนิชำนาญด้านการดับเพลิง กู้ภัย และก็ยับยั้งเหตุฉุกเฉิน ทั้งในและก็ต่างประเทศ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือและก็ให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์หัวฉีดดับเพลิงแบบ Fix Monitor หุ่นยนต์ดับเพลิงและก็โฟมดับเพลิง
โรงงานแยกปิโตรเลียม การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยพร้อมให้การช่วยเหลือในกรณีรีบด่วน ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มโรงงานนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่มาบตาพุดและก็ใกล้เคียง จังหวัดจังหวัดระยอง
มีทีมงานเฉพาะกิจพิเศษ กลุ่ม การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย41 คน ที่นำโดย ณัฐธัญ ละอองทอง ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารภาวะเหตุฉุกเฉิน ลุยดับเพลิงกัน 20 ชั่วโมง สามารถที่จะเข้าควบคุมเพลิงได้อย่างสม่ำเสมอ
ที่สำคัญเป็นการบริหารจัดการหลังเพลิงสงบ ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อมหรือสารเคมีที่ตกค้างอันจะก่อให้กำเนิดมลพิษกับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีที่อยู่นอกบ่อและก็สารเคมีที่ตกค้างอยู่ในบ่อ ควรต้องได้รับการกำจัดอย่างถูกทาง และก็การบรรเทาความลำบากเฉพาะหน้าให้กับประชาชนที่ได้รับผลพวง ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัย ผ้าที่เอาไว้สำหรับห่ม กล่องพลังใจ ไปจนกระทั่งหน้ากากคุ้มครองป้องกันพิษ ที่การห้ามเหตุอัคคีภัยโดยธรรมดา จะมิได้ให้การช่วยเหลืออย่างสม่ำเสมอและก็คำนึงถึงผลพวงด้านมลภาวะและก็สิ่งแวดล้อมที่จะกำเนิดกับชุมชน
น่าจะเป็นโมเดลของความปลอดภัยและก็คุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างดีเยี่ยม.