24/03/2023
Breaking News

ชำแหละ 4 หลักสำคัญร้อน แมนยูฯ ปราบ ลิเวอร์พูล ฉลุยเอฟเอคัพ

“ภูตผีปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ “ลิเวอร์พูล” หงส์แดง ไปแบบสุดมัน เข้ารอบ 5 เอฟเอคัพได้เสร็จ และนี่เป็น 4 ประเด็นหลักที่ได้เห็นจากเกมนี้

1.รูปเกมแลกกันเดือด ใครกันแน่พลาดโดน

แมนยูฯ ออกสตาร์ตเกมนี้ได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ได้ลุ้นก่อนถึง 2 จังหวะจากการยิงของ เมสัน กรีนวูด หนแรกยิงไปติดเซฟ อลิสสัน ครั้งที่สองหลุดเสาแรก จริงๆจังหวะแรกถ้าจ่ายให้ ฟาน เดอ เบค ที่วิ่งเติมขึ้นมาก็บางทีอาจจะได้ประตูไปแล้ว ต่อจากนั้นนาทีที่ 18 กลายเป็น หงส์แดง ที่ออกนำก่อน 1-0 แบบง่ายๆเลย เมื่อ โรกางร์โต เฟอร์มิโน จ่ายบอลทะลุไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าเขตโทษก่อนชิพบอลผ่านตัว ดีน เฮนเดอร์สัน เข้าไป แต่นาทีที่ 26 แมนยูฯ ตีเสมอ 1-1 เมื่อ มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดบอลยาวจากฝั่งซ้ายไปฝั่งขวาให้ เมสัน กรีนวูด หลุดไปยิงตุงตาข่าย ต่อจากนั้นแมนยูฯ ครองเกมไว้ได้หมดก่อนที่จะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-1 ต่อกันที่ครึ่งหลัง เริ่มมาแค่ 3 นาที แมนยูฯ ขึ้นนำ 2-1 เมื่อ เมสัน กรีนวูด จ่ายบอลขึ้นมาทางด้านซ้าย รีส วิลเลียมส์ กองหลังดาวรุ่งลิเวอร์พูลสกัดบอลวืด เลยมาถึง แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปยิงตุงตาข่าย เกมเปิดแลกกันเดือด นาทีที่ 58 หงส์แดง ตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ตัดบอลได้ในแดนของยูไนเต็ดก่อนจ่ายถึงแม้ว่าจะ เฟอร์มิโน ผ่านบอลเข้ากลาง มิลเนอร์ ผ่านหลอกให้ ซาลาห์ ยิงเข้าไป พอเพียงตีเสมอได้เสร็จ หงส์แดง ฝ่าใส่อย่างมากเพื่อหวังเอาประตูเพิ่ม แต่การยิงของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์ กับ ซาลาห์ โดน ดีน เฮนเดอร์สัน เซฟไว้ได้ทั้งหมด จนกระทั่งนาทีที่ 77 แมนยูฯ มาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ และเป็น บรูโน เฟอร์นันเดส ปั่นเข้าไปตุงตาข่าย พาภูตผีปิศาจแดงคว้าชัย 3-2 ไปสุดท้าย ซื้อตั๋วเข้ารอบ 16 กลุ่มได้เสร็จ ไปพบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

liver

2.ฟาน เดอ เบค-แม็คโทมิเนย์ ทำได้ไม่ดีพอเพียง

เกมนี้ ดอนนี ฟาน เดอ เบค ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง ดูไปดูมาเหมือนจะดีด้วยเหตุว่ามีจังหวะเล่นบอลจังหวะเดียวแบบงามๆให้เห็น กระทั่งช่วยให้กลุ่มมีลุ้นทำคะแนน แต่พอเพียงเล่นไปเรื่อยๆดันค่อยๆหายไปจากเกมและหน้าที่ค่อนข้างน้อย และเป็น บรูโน เฟอร์นันเดส ที่ลงมาแทนที่เขาและเป็นคนซัดฟรีคิกเป็นประตูชัยให้ภูตผีปิศาจแดงในเกมนี้ บางโอกาส ฟาน เดอ เบค อาจต้องใช้เวลาสำหรับในการปรับนิสัยให้กับระบบการเล่นของกลุ่มอีกสักระยะ แต่ โอเล กุนทุ่งนาร์ โซลชารื ทำถูกแล้วที่ให้โอกาาสเขาได้ลงสัมผัสเกมสำคัญๆแบบงี้ เพื่อทำให้ตัวนักเตะมีความเชื่อมั่นที่จะต้อสู่สำหรับในการชิงตำแหน่งในกลุ่มถัดไป ส่วน สกอตต์ แม็คโทมิเนยื วันนี้ดูเฉือยแปลกๆเข้าบอลช้าหนึ่งจังหวะตลอด ยิงจังหวะเสียประตูแรกเขาปล่อยให้ เฟอร์มิโน ได้จ่ายบอลให้ ซาลาห์ หลุดไปยิงง่ายๆไม่มานะจะเข้าไปบีบแย่งบอลอะไร อย่างไรก็แล้วแต่ น้องแม็ค ก็ยังเป็นนักเตะคนสำคัญของกลุ่มด้วยเหตุว่าฤดูกาลนี้มันมีนัดที่เขาเล่นดีกว่าเล่นห่วยแตกนั่นเอง

3.ชอว์, แรชฟอร์ด, กรีนวูด, บรูโน สุดปัง

นัดนี้ถ้าไม่นับจังหวะปล่อยให้ ซาลาห์ วิ่งแซงไปยิงขึ้นนำ 1-0 จัดว่า ลุค ชอว์ สะดุดตามากมายๆโดยเฉพาะการวิ่งขึ้นวิ่งลงแบบไม่มีหมด เติมเกมรุกได้อย่างดุดันจนได้ขึ้นมาเปิดบอลหลายครา เล่นแบบงี้คงจะทำให้ อเล็กซ์ เตลเลส ยากมากมายที่จะเบียดขึ้นมาแย่งตัวจริงได้ อย่างไรก็แล้วแต่นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นได้ว่า การที่ยูไนเต็ดดึง เตลเลส เข้ามา นั้นทำให้ ลุค ชอว์ ยกฐานะฝีเท้าขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุว่ามีคนรอลุ้นเบียดชิงตำแหน่งนั่นเอง ส่วน แรชฟอร์ด บางวันดีบางวันห่วยแตก แต่นัดนี้บอกเลยว่าโหดเหี้ยมสุดๆโดยเฉพาะจังหวะเปิดบอลให้ กรีนวูด หลุดไปยิงตีเสมอนั้นเป็นอะไรที่สุดยอดมากมายๆและจังหวะที่เจ้าตัวได้หลุดไปยิงขึ้นนำ 2-1 ก็จบสกอร์ได้อย่างเลิศเลอ ในตอนที่ กรีนวูด แม้ว่าจะพลาด 2 นาทีทองในตอนต้นเกม แต่ก็มาแก้ตัวยิงตีเสมอ 1-1 ให้กลุ่ม และยังได้มา 1 แอสซิสต์จากการจ่ายให้ แรชฟอร์ด ยิง ต้องยกนิ้วให้การประสานงานระหว่าง กรีนวูด และ แรชฟอร์ด ที่เข้าขากันสุดๆส่วน บรูโน ไม่ต้องพูดมากมาย ลงมาแล้วยกฐานะกลุ่มได้โดยทันที ก่อนที่จะซัดฟรีคิกปลิดวิญญาณพาทีมคว้าชัยไปสุดท้าย

liver 2

4.แนวรับหงส์อาการหนัก-เกมรุกดีขึ้น

พูดได้ว่าโดนงามมาแต่ละคราวรั่วกระจัดกระจาย สำหรับแนวรับของหงส์แดงที่เกมนี้จัด 4 คน จากซ้ายไปขวามี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ, รีส วิลเลียมส์ และ เทรนต์ อเล็กซานดอร์ อาร์โนลด์ เริ่มกันที่จังหวะเสียประตูตีเสมอ 1-1 โดนตอบโต้กลับเร็ว ไม่มีผู้ใดเข้าไปบีบบ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ได้เปิดบอลยาวจากฝั่งซ้ายไปขวาให้ เมสัน กรีนวูด หลุดไปยิงง่ายๆพูดได้ว่าแผงหลังหลุดกันยกแผง ส่วนจังหวะโดนแซงนำ 2-1 รีส วิลเลียมส์ ต้องรับผิดชอบไปคนเดียวแบบเต็มๆด้วยเหตุว่าสกัดลูกเปิดของ เมสัน กรีนวูด วืด กระทั่งทำให้บอลหลุดไปถึง แรชฟอร์ด ควบพาบอลเข้าไปยิงตุงตาข่าย
ส่วนจังหวะเสียประตูที่ 3 ฟาบินโญ ต้องรับผิดชอบด้วยเหตุว่าดันไปทำฟาวล์ในระยะที่อันตราย กระทั่งถูก บรูโน เฟอร์นันเดส ซัดฟรีคิกเข้าไป ส่วนเกมรุกของลิเวอร์พูล กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งโดยเฉพาะ โรกางร์โต เฟอร์มิโน กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ทำได้ดีมากๆเฟอร์มิโน จัดไป 2 แอสซิสต์แบบงามๆส่วน ซาลาห์ ก็เรียกความเฉียบคมกลับมาได้จาก 2 ประตูที่ทำได้ในเกมนี้