การแข่งขัน ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง “ดิ อีเกิลส์” คริสตัล พาเลซ พบกับ “สุนัขจิ้งจอกสีน้ำเงิน” เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สนาม เซลเฮิร์สท์ พาร์ค เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2564
เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที เจ้าถิ่นสบโอกาสก่อนเลย จอร์แดน อายิว ได้บอลบริเวณหน้าเขตโทษก่อนสับไกด้วยขวาแต่ว่า แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นายด่านทีมเยือนยังไวพุ่งปัดเอาไว้ได้
นาทีที่ 15 ทีมเยือนได้ลุ้นจากลูกเตะมุม บอลถูกเปิดยาวเข้าเขตโทษก่อนไปเข้าทาง ยูริ ตีเลมันส์ ได้ยิงเข้ากรอบแต่ว่า บิเซนเต้ แกว่งต้า ไม่พลาดกระโดดปัดเอาไว้ได้
นาทีที่ 32 “สุนัขจิ้งจอกสีน้ำเงิน” สบโอกาส เคเลชี่ อิเฮียที่นาโช่ แย่งบอลจาก โยอาคิม อันเดอร์บวงสรวง ก่อนหลุดเข้าเขตโทษแล้วซัดตุงตาข่าย เลสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ 1-0
นาทีที่ 37 ทีมเยือนฝ่าต่อ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ จ่ายทะลุช่องให้ เจมี่ วาร์ดี้ หลุดโดดเดี่ยวเข้าไปกดไม่เหลือ เลสเตอร์ ซิตี้ หนีเป็น 2-0 พร้อมหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาช่วงหลัง นาทีที่ 52 วิลฟรีด ซาฮา แทงบอลทะลุช่องให้ อ็อดชอนน์ เอดูอาร์ ได้บอลก่อนเลี้ยงตัดเข้ามาในเขตโทษ แล้วล็อคหลบ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ก่อนได้โอกาสยิงบอลผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ไปแล้ว แต่ว่าไปชนคานอย่างจัง
นาทีที่ 61 เจ้าถิ่นเริ่มครองเกมได้มากขึ้น ไทริค มิทเชลล์ เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ มิเชล โอลิส ผู้เล่นสำรองได้ยิงไปติดแผงหลังก่อนยิงซ้ำจังหวะสองแทงตาข่ายเข้าไป คริสตัล พาเลซ ไล่มา 1-2
เจ้าบ้านฝ่าหนัก นาทีที่ 72 มิเชล โอลิส เก็บบอลได้ก่อนเปิดย้อนเข้าเขตโทษแนวรับทีมเยือนสกัดมาเข้าทาง เจฟฟรีย์ ชลุปป์ โหม่งซ้ำเข้าประตูไป คริสตัล พาเลซ ตามตีเสมอ 2-2
จบเกม คริสตัล พาเลซ เปิดบ้านไล่ตีเสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-2 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้ม ส่งผลให้ “ดิ อีเกิลส์” มีเพิ่มเป็น 7 คะแนน ขยับรั้งอันดับ 14 ช่วงเวลาที่ “สุนัขจิ้งจอกสีน้ำเงิน” รั้งอันดับ 13 มี 7 แต้ม
รายนามผู้เล่นของทั้งสองทีม
คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : บิเซนเต้ แกว่งต้า – โจเอล วอร์ด, โยอาคิม อันเดอร์บวงสรวง, มาร์ค เกฮี, ไทริค มิทเชลล์ – คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (เจฟฟรีย์ ชลุปป์ น.71), ลูก้า มิลิโม้เยวิช, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ – จอร์แดน อายิว ( มิเชล โอลิส น.54), อ็อดชอนน์ เอดูอาร์, วิลฟรีด ซาฮา
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-4-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล – ทิโมธี คาสตานเญ่, ซากลาร์ โซยุยงนยก, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ไรอัน เบอร์ทรานด์ – อเดโมล่า ลุคแมน (มาร์ก อัลไบรท์ตัน น.80), ยูริ ตีเลมันส์, ฮัมซ่า เชาดูปรี่ (บูบากาปรี่ ซูมาเร่ น.60), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ – เจมี่ วาร์ดี้, เคเลชี่ อิเฮียที่นาโช่ (เจมส์ แมดดิสัน น.70)