‘นิพนธ์’ หนุน ‘ศบค.ด้านหน้า’ ชี้ คนออกนอกบ้านเวลาเคอร์ฟิว สะท้อนช่องว่าง กิโลเมตร เชื่อมือ ‘บิ๊กเล็ก’ มีประสบการณ์
เมื่อเวลา 08.25 น. วันที่ 19 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยรวมทั้งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายศุภชัย ใจสมุทร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ไม่เห็นด้วยการให้ พล.อำเภอณัฐพล นาคการซื้อขาย ที่ปรึกษานายกฯ ซึ่งเป็นทหารมาเป็นผู้อำนวยการศูนย์บูรณาการปรับปรุงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อเชื้อไวรัสโคโรท้องนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ด้านหน้า ว่าความเห็นโดยส่วนตัวคิดว่าการจัดการกับปัญหาโควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้ทุกฝ่ายจะต้องพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด บูรณาการงานร่วมกันให้ได้ ไม่ใช่ทำใครทำมัน ที่สำคัญเป็นกระบวนการทำความเข้าใจกับประชากร เนื่องจากในขณะนี้ประชากรนิดหน่อยคิดว่าวัคซีนไม่มีความสำคัญ โดยเหตุนี้ เราจะต้องทำความเข้าใจกับคนกลุ่มนี้ให้ได้ รวมทั้งภาครัฐเองจะต้องพร้อมที่จะส่งวัคซีนลงไปให้ทันต่อความปรารถนา เชื่อว่าวัคซีนมีจำนวนพอเพียงสำหรับในการที่จะจัดแบ่งลงไป แต่จะต้องกระจัดกระจายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมทั้งให้เร็วที่สุด
นักข่าวถามคำถามว่ามีเสียงไม่เห็นด้วยการให้ทหารเป็นผู้จะรับผิดชอบสำหรับในการจัดการกับปัญหา เนื่องจากว่าอยากให้แพทย์เป็นผู้จะรับผิดชอบมากยิ่งกว่า นายนิพนธ์พูดว่า การบูรณางานการของทุกฝ่ายเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากว่ายังมีคนออกนอกบ้านในเวลาเคอร์ฟิวอยู่ นั่นสะท้อนให้มีความคิดเห็นว่าเรายังมีช่องว่างสำหรับในการบังคับใช้กฎหมาย โดยเหตุนี้ การจะทำให้ทุกคนเคารพนับถือระเบียบเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อสร้างระเบียบ จึงเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย อีกทั้งฝ่ายปกครอง สาธารณสุข รวมทั้งข้างๆอื่น โดยเฉพาะข้างความยั่งยืนที่ดูแลพื้นที่อยู่จะต้องร่วมมือกัน เนื่องจากว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่พิเศษอยู่แล้ว
เมื่อถามคำถามว่าส่วนตัวเห็นว่า พล.อำเภอณัฐพล จะเอาอยู่ไหม นายนิพนธ์พูดว่า ส่วนตัวคิดว่า พล.อำเภอณัฐพล มีประสบการณ์ แต่ทั้งหมดนี้อำนาจของผู้ว่าราชการ สาธารณสุขจังหวัดยังเป็นกลไกหลักที่จะจะต้องดำเนินการอดทน