คำวิพากษ์วิจารณ์ : ถ้าหากจะพูดว่าภาพยนตร์เรื่อง Kung Fu Panda นั้นบรรลุผลสำเร็จแบบสุดๆไปเลย ก็คงมองไม่เกินจริงนัก เนื่องจากว่าที่มีการ์ตูนอนิเมชั่นที่ดังเปรี้ยงถึง 3 ภาคนั้นไม่ใช้ว่าจะง่ายเลย แต่สำหรับภาพยนตร์การ์ตูนประเด็นนี้กลับมีคู่รักหนังอย่างแน่นแฟ้น สังเกตได้จากจำนวนคนดูในโรงภาพยนต์ ซึ่งจำนวนมากเป็นเด็กในวัยเรียน ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเนื่องจากว่าตารางฉายที่เปิดให้เข้าชมในพักหลังสอบเสร็จใหม่ๆด้วย โดยโพ ตัวละครเอกของเรื่องก็ยังคงความติ๊งต๊องได้ไม่เปลี่ยนแปลง สิ่งที่พิเศษกว่าภาคอื่นๆอาจเป็นปรัชญาพื้นที่ผู้สร้างอยากได้แทรกเข้ามาตั้งแต่ต้นเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ถ้าหากเจ้าไม่ทำสิ่งที่ยากขึ้น เจ้าก็จะไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเลย” รวมทั้ง “ข้าฯ ไม่ได้สอนเจ้าให้เป็นข้าฯ แต่ข้าฯ สอนเจ้าให้เป็นเจ้า” โดยมีการชี้แจงความหมายของคำกล่าวนี้ในตอนท้ายเรื่อง ในขณะที่โพได้รับพลังมาจากบรรดาพี่น้องรวมทั้งผองเพื่อน ทำให้พันลายเข้าใจว่าโดยความเป็นจริงแล้ว อาจารย์ต้องการที่จะให้เขารู้จักตัวเอง ซึ่งทำให้เจ้าแพนด้าตัวป่วนเปลี่ยนเป็นนักสู้มังกรได้สำเร็จ กังฟูแพนด้า 3
ยิ่งกว่านั้นรายละเอียดของภาพด้านในเรื่องก็ทำเป็นดียิ่งขึ้น ผู้แสดงขยับได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีการแสดงความรู้สึกทางสีหน้าท่าทางรวมทั้งแววตา เส้นขนพลิ้วไหวได้สมจริงมาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทิศทางการลอยละล่องของกลีบทำเป็นเนียนขึ้น รวมทั้งเปลวแต่ละดวงมีลักษณะที่แตกต่างกัน ถือว่าเป็นการ์ตูนอนิเมชั่นที่พัฒนาขึ้นกว่าภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องอื่นที่ถูกทำขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน อย่างไรก็ตาม Kung Fu Panda 3 น่าจะชอบใจเด็กๆรวมไปถึงวัยรุ่นช่วงต้นได้ง่ายๆ แต่จะเรียกว่าเป็นภาพยนตร์การ์ตูนสำหรับครอบครัวก็คงบอกได้ไม่เต็มปาก เนื่องจากว่าการติดต่อสื่อสารของผู้แสดงยังเป็นไปในแบบอย่างที่ยังไม่ซับซ้อนเท่าไรนัก ได้แก่ พ่อกับโพเจอกันง่ายเกินความจำเป็น พบกันรวมทั้งเชื่อใจรวมทั้งเดินทางตามไปทันที โดยที่แทบจะไม่มีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเลย ที่จริงถ้าหากเพิ่มเติมเรื่องราวอะไรบางอย่างลงไปให้น่าตื่นเต้นกว่านี้ก็จะดีเยี่ยม
